ครม. คืออะไร ?

วันนี้ วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2551 ประชาชนชาวไทยคงได้ทราบแล้วว่าคณะรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ชื่อว่า นายสมัคร สุนทรเวช มีใครได้ตำแหน่งไหนบ้าง  ใครขมขื่น ใครขื่นขม  ใครถูกสมน้ำหน้า  ใครด่าทอ

          จำได้ว่าเมื่อครั้งยังเป็นสามเณร อายุ ราว 16-17 ปี (พ.ศ.2517) ในครั้งนั้นมีการสอบนักธรรมสนามหลวงประจำปี  ขณะที่รอการสอบที่สสนามสอบวัดบ้านแพน  ตำบลบ้านแพน  อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  ก็มีพระผู้ใหญ่นำแผ่นพับแข็ง ๆ ไปแจกพระเณรที่เข้าสอบจำนวนมาก  เมื่อรับแผ่นพับมาแล้วก็รู้ว่า สมเด็จพระสังฆราชองค์ใหม่  คือ  สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระนามเดิม  วาสน์  พระฉายา วาสนมหาเถระ สถิต ณ วัดราชบพิธ สถิตมหาสีมาราม  กรุงเทพมหานคร

          ในแผ่นพับนี้  มีพระฉายของพระองค์ เมื่อพลิกไปด้านใน พบพระนิพนธ์ซ้ายมือ เป็นกลอนหก (6) ว่า...

 

หัวโขน สวมหัว คนเต้น
หมายเป็น ลิง - ยักษ์ สักครู่
ถอดโขน แล้วคน เดิมดู
ใช่ผู้ ยักษ์ - ลิง สิ่งลวง

 

              ณ  เวลานั้นได้แต่ท่องจำว่าเป็นกลอนที่ไพเพาะดี  แล้วก็จำติดใจตลอดมา  ครั้นมีเวลาว่างจึงได้อนุสรณ์ถึงธรรมานุปัสสนาสติปัฏฐาน โดยคิดว่า..."ทำไมหนอ...จึงมีพระประสงค์ให้พิมพ์คำกลอนนี้แจก"... คำตอบที่ได้รับก็คือ "ทรงกล้าเหลือเกินที่จะตรัสเตือนพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนในสังฆมณฑลว่าการที่พระองค์ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ  โปรดสถาปนาเป็นสมเด็นพระสังฆราชนั้น เป็นหน้าที่  แต่โดยความเป็นจริงนั้นพระองค์ยังรู้สึกว่าพระองค์เป็นใคร  มาจากไหน  จะต้องทำอะไร  ไม่ควรที่ใคร่ ๆ จะลุ่มหลงในยศศักดิ์ไม่ควรที่ใคร ๆ จะประจบสอพลอ  ร่างกายก็คือ  ขันธ์ 5 อายตนะภายใน 6  อายตนะภายนอก 6  นี่คือสิ่งที่คิดรู้ตลอดมา  นับเป็นการตรัสสอนที่ทรงกล้าหาญเสียเหลือเกิน  ครั้นต่อมา  ได้มีโอกาสเฝ้า ฯ โดยความเมตตาของท่านเจ้าคุณพระธรรมวรเมธี (สมณศักดิ์ปัจจุบัน) และ  ท่านเจ้าคุณพระธรรมวราภรณ์ (มนตรี) จึงได้เห็นพระเมตตาและการวางพระองค์ของพระเดชพระคุณเจ้าพระคุณสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปรินายก  พระองค์นั้นว่า  พระองค์มิได้ปฏิบัติในการวางพระองค์ต่างไปจากที่ได้ประทานคติธรรมแต่ประการใด จึงอัญเชิญพระคติธรรมนี้ไว้ในใจตลอดมา

            วันนี้  คงทราบกันแล้วว่าคณะรัฐบาล  โดยการนำของ ฯพณฯ นายสมัคร  สุนทรเวช  มีใครเป็นรัฐมนตรี  เป็นรัฐมนตรีช่วย ฯ และ ตำแหน่งอื่น ๆ  เพื่อการ "ปิดปาก  ตอบแทนผลงาน และบริหารประเทศชาติ"

               เฉพาะตำแหน่ง รัฐมนตรี  และ  รัฐมนตรีช่วย ฯ  ซึ่งเรียกว่า...ครม. นั้น  ขอให้อัญเชิญพระคติธรรมข้างต้นใส่ในใจ  ครั้นใส่ในใจแล้ว  ลองมาดูความหมายของอักษรย่อว่าควรคิดอย่างไร ?

ครม.   แปลว่า  คณะรัฐมนตรี   เป็นการรวมคนมีปัญญาในแขนงนั้น ๆ  เข้าบริหารประเทศ

ครม.  แปลว่า  ความรู้มาก     เมื่อได้รับตำแหน่งแล้วควรศึกษาให้มีความรู้ทันวิชารการ  ทันสถานการณ์ ทันกล  ทันเกมของโลก

ครม.  แปลว่า  คิดเรื่องเมือง  คือ  ควรทุ่มเทใจ  เรื่องงานบ้านงานเมือง  ไม่ควรที่จะคิดเรื่องส่วนตัว

คมร.  แปลว่า  ควรเร่งมือ   ในภาวะการณ์เช่นนี้  มีปัญหารุมเร้าทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สติปัญญา ศีลธรรมจึงควรเร่งมือด้วยความขยัน

ครม.  แปล่วา  คอรอมีด  ให้สำนึกว่าตำแหน่งใหญ่ที่ได้มาด้วยความไว้วางใจนั้น เหมือนเอคอไปรอมีด ถ้าไร้ความสามารถ ก็เท่ากับทำลาย

                                      ตัวเอง ชื่อเสียงวงศ์ตระกูล  และจะกลายเป็นความพลาดความผิดที่จะถูกประจานโดยสื่อและประชาชน ถ้าไม่ไหวให้

                                       รีบเอาคอพ้นจากมีดเสียโดยเร็ว

คมร.  แปลว่า  ควายรั้งม้า  บางคนขาดความรู้ความสามารถ  แต่มีฐานทางการเมือง  ได้รับการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง  และนำผู้สมัครเข้าสภา

                                        จำนวนมาก  จำเป็นต้องตอบแทนจะกลายเป็นตัวถ่วงของคณะรัฐมนตรีที่มีความสามารถเหมือนควายรั้งม้า ประเทศ

                                         ไทยแทนที่จะวิ่งเร็วก็กลับช้าเพราะพวกควายรั้งม้า

ครม.  แปลว่า  คนรักเมีย  บางคนรักเมียอยากให้เมียเป็นรัฐมนตรีกับเขาบ้าง นับว่าเป็นผัวที่ดีสำหรับภรรยาแต่ไม่น่านำมาใช้กับประเทศชาติ

ครม.  แปลว่า  ใครรักมึง  คนเก่ง คนดี  ที่ไม่มีพวก  อย่าคิดมาก  เพราะว่า "ไม่มีใครรักมึง" มึงก็อย่าน้อยใจ