นักเรียน นักเลง (เก่งไม่จริงนี่หว่า !)

อีกแล้วหรือนี่ที่นักเรียนตีกัน ยิงกัน  แทงกัน  ดูภาพที่มีคนบันทึก วี ดี โอ  แล้ว   มันจริง ๆ  เร้าอารมณ์  ตื่นเต้นเป็นบ้าเลย.. ชังน่าติดตามอะไรเช่นนี้  แล้วจะมีภาค ๓-๔ ฯ ให้ดูอีกเมื่อไหร่ ?    เพราะตอนนี้สถาบันทั้ง ๒  แห่งยกพวกตีกัน ๒  ครั้งแล้ว  เท่ากับ"องค์บาก ภาค ๒"  หนังองค์บากจะมันอารมณ์ขนาดไหนไม่เคยดู  แต่นักเรียน นักเลง  ขอตอบว่ามันส์จริง ๆ

     ลูกใครโว้ย...??   เก่งเป็นบ้าเลย  ///  ตีกันได้ข้างถนน  กลางถนน  โดยไม่สนใจความเดือดร้อนของผู้คน   ตีกันขวางขบวนเสด็จพระราชดำเนินสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี   จนถึงเจ้าฟ้าต้องเสด็จเลี่ยงไปเส้นทางอื่น   คนที่ไปศูนย์การค้าพลอยตกใจไปด้วย   คนที่ขับรถและเดินถนนก็กลัวถูกลูกหลง   เพราะพวกนี้มือไม่แม่นพอ  เผลอ ๆ   อาจทำแบบในหนัง คือ  จี้ตัวประกันแล้วจี้รถ   ให้เจ้าของรถขับไป   เล่นแบบหนังฝรั่งกันเลย    ต้องสร้างหนัง "2552  เทคโนป่วนเมือง"

      ลูกใครโว้ย...??   ไปเยี่ยมกันในคุกตารางบ้าง  ///   เก่งกันจริง   ใจมันเด็จทุกคน  คือ   ไม่เคยคิดสงสารพ่อแม่ที่ส่งเงินให้ไปเรียนหนังสือ   ไม่เกรงใจญาติข้างพ่อที่ตนเองใช้นามสกุลของฝ่ายข้างพ่อ   ทันทีที่ถูกจับได้นามสกุลข้างพ่อก็จะขึ้นหน้าหนังสือิพิมพ์หรา..   คราวนี้อย่าหวังว่าญาติฝ่ายข้างพ่อจะมีความรักความเมตตา   ก็เห็นจะมีแม่เท่านั้นที่ไปเยี่ยมในคุกตะราง  น้ำตาไหลพราก ๆ  เพราะสงสารลูก   แต่ลูกมันจะน้ำตาไหลสงสารแม่มันสักคนก็ไม่มี   จึงว่า "ใจมันแน่  ขนาดแม่มัน ๆ  ยังไม่รักเลย..แม่ง  โคตรเจ๋งเลย  นับถือมันจริงๆ"

        เราเห็นนักเรียนตีกันแล้ว   นึกถึงเมื่อตอนอายุ  ๑๓ - ๑๔  ก็  พ.ศ.๒๕๑๓ -  ๒๕๑๔  ตอนนั้นมีเพลงชื่อ "ใหญ่ก็ตาย ไม่ใหญ่ก็ตาย"  ขับร้องโดยนักร้องผิวดำซึ่งเป็นรุ่นน้อง  ไวพจน์  เพชรสุพรรณ   เป็นรุ่นพี่  ศรเพชร  ศรสุพรรณ  คุณดำ แดนสุพรรณ ร้องเพลงประชดพวกนักเรียน  นักเลง  จิ๊กโก๋   ซึ่งถ้าเป็นสมัยนี้อาจรวมพวกรถซิ่งเข้าให้ด้วย    เนื้อเพลงเท่าที่พอจะจำได้มีดังนี้...

       ฆ่าก็ตาย  ไม่ฆ่าก็ตาย   สัตว์ทั้งหลายไม่อยู่ค้ำฟ้า  ฆ่ากันมันบาปที่สุด  เช่นฆ่ามนุษย์เหมือนปูเหมือนปลา  ไข้ที่รอหมอ  โรคที่รอยา  อยู่ในดงพงป่าใครไม่ฆ่า  เขาก็ต้องตาย  ใครเลือดมากบริจาคกาชาด   อย่าเก่งอาจอวดกล้าท้าทาย  ไปเที่ยวเดินแอ็ด(เดินกวนตีน)ให้พวกเสียบอก  โลหิตมันหกเห็นแล้วเสียดาย  ตัวคุณก็ต้องตาย  เสียดายกำลังของชาติ  พวกญาติ ๆ ก็จะน้ำตานอง  ใหญ่ก็ตาย  ไม่ใหญ่ก็ตาย   เพื่อนทั้งหลายกระผมขอร้อง   เก่งจริงไหงวิ่งลนลานตอน-ไล่ทหารเสียเงินก่ายกอง  ชาติต้องการรั้วทั่วแผ่นดินทอง   เก่งในซอยในซ่อง   ควรจะต้องจับใส่ซังเต   พระพวงใหญ่แขวนไว้เต็มคอ  คล้องหลวงพ่อไหงก่อเกเร ไม่มีธรรมะแต่พระเต็มอก  พระท่านไม่ปกป้องคนเสเพล  ตัวผมชอบฮาเฮ  เกเรแล้วไม่สู้   หายใจอยู่ดีกว่าเท่งทึง

      ใคร ๆ  ลองหาซื้อเพลงของนักร้องชื่อนี้ไปเปิดให้นักเรียนนักศึกษาพวกนั้นฟังบ่อย ๆ  เขาจะได้มีสติพิจารณาตนเองกันเสียบ้าง....

ถ้าชอบตี ให้ไปเรียนวิชากระบี่กระบอง
ถ้าชอบแทง ให้ไปเรียนวิชาฟันดาบฝรั่ง
ถ้าชอบต่อย ให้ไปเรียนวิชาเป็นนักมวย
ถ้าชอบยิง ให้ไปสมัครเป็นมือปืนทีมชาติหรือไปเป็นทหารตำรวจ
ถ้าชอบรุม ให้ไปเป็นนักรักบี้  หรือ  อเมริกันฟุตบอล
ถ้าชอบทำปืน และ ระเบิด ให้ไปเรียนวิชาผลิตอาวุธกับคลังแสงของทหาร จะได้ลดการซื้ออาวุธจากต่างประเทศ
ถ้าถูกเขาไล่ตีแล้วหนีไม้หนีมีดทัน ให้ไปเรียนเป็นนักวิ่งทีมชาติ
ถ้าวิ่งตามทันคู่อริ ให้ไปสมัครแข่งวิ่งผลัด ๔

         ถ้ายื่นข้อเสนอตามที่ใจตนเองชอบ   พฤติกรรมที่ตนเองเป็นแล้วไม่เอา   ต้องด่าว่า "โธ่เอ๊ย..เก่งไม่จริงนี่หว่า"

เอาล่ะ...โยมก็คงกลัวว่าเด็กมันจะวกพระเข้า   ก็ไม่ต้องห่วงหรอก   เพราะมันรู่ว่าพูดจากกระทบให้พวกมันเลิกพฤติกรรม  เพื่อพ่อแม่  อนาคตของเขาเอง   เพราะเสียดายความเป็นคนหนุ่มของพวกเขาที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ

          มีคนถามว่าเด็กมันตีกันเพราะอะไร ?  ข้อนี้ตอบไม่ยาก   ดูจากตนเองที่เคยเป็นวัยรุ่น   ซึ่งถึงจะเป็นวัยรุ่นอยู่ในภาวะของความเป็นสามเณรก็ยังมีเรื่องต่อยกันเอง  ชกต่อยกับพระเจ้าถิ่น   เด็กเจ้าถิ่น  เด็กวัด   แต่สมัยอาตมาเป็นเณรนั้นเขาไม่ใช้อาวุธนะ   โดยมีพยานยืนล้อมเพื่อให้ความเป็นธรรมนับเป็นสิบ   ยอมแพ้หรือน็อคแล้วก็หายโกรธกัน   มีไม่น้อยที่เณรชกต่อยกับพระเจ้าถิ่น  สุดท้ายก็กลายเป็นน้องเขยบ้าง  เป็นพี่เมียบ้าง   ดังนั้นจึงพอจะประมวลเหตุที่วัยรุ่นตีกันได้ คือ...

อวดหญิง
ชิงศักดิ์ศรี
เบ่งบารมี
หนี้แค้นที่ต้องชำระ
สันดานเกะกะเกเร

           แมวหลังกุฎิตองกับหัวนอนอาตมาก็กัดกันเกือบทุกเช้ามีดก้เพราะเหตุ  ๕  ประการ   บางวันขณะตีกัน  ส่งเสียงขู่กันลั่นวัด   หมาตัวใหญ่มันรำคาญเสียงก็เลยย่องมากัดแมวทั้งคู่กระเจิง  แมวทั้งคู่จึงรู้ว่า "กูเก่งไม่จริง"   วันหลังมันจะกัดกันต้องใช้สายตาลอบมองดู"หมาเจ้าพ่อ" เพียงแต่ว่าแถว ๆ  ที่เด็กมันชอบตีกันน่ะ  มีเจ้าพ่ออยุ่บ้างหรือเปล่า   อ้อ... มีเจ้าพ่อสีกากีอยู่ไม่ไกลเลย  แต่สงสัยว่าทำไมเด็กมันไม่เกรงใจ  ซ้ำยังเจ็บตัวอีกต่างหาก

         เอ้า...  วัยรุ่นทั้งสองสถาบันน่ะ   ลองไม่ยืนหน้าสถาบันขอบตนเองแล้วดูสัญญลักษณ์ให้เต็มตาซิว่า.."มหาวิทยาลัยราชมงคล"หรือเปล่า แล้วดูซิว่า "สัญญลักษณ์คือตราประพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานให้"  หรือเปล่า   ดูที่อกเสื้อประดับสัญญลักษณ์เดียวกันหรือเปล่า ??    ถ้าใช่ก็เลิกตีกันเถอะ    องค์พระบิดาเดียวกันทั้งนั้น   และถ้าจะแข่งศักดิ์ศรีละก็ "แข่งสีมือ" กันดีกว่าและถ้าจะแก้ไขให้เด็ดขาด   สมมุติว่าถ้าเป็นราชมงคลด้วยกัน   แก้ไขไม่ยาก   ฟังให้ดีนะ   ท่านอธิการบดี  วิธีแก้ไขที่เด็ดขาดที่สุดคือ....

นักศึกษาปี ๑-๒  เรียนที่   ราชมงคลอุเทนถวาย
นักศึกษาปี ๒-๔  เรียนที่  เทคโนปทุมวัน
หรืออาจจะสลับกันตามสถานพื้นที่และอาคาร  ก็ได้....
ถ้าเทคโนปทุมวันยังแยกส่วนงานก็กลับมาเป็นราชมงคล  แล้ว  เบ่งพื้นที่  ๑-๒ เรียนปทุมวัน  ปี ๓-๔  เรียนอุเทนถวาย  ความเป็นชนชั้นก็หมดไป เท่านี้ก็สิ้นเรื่อง.

พระราชวิจิตรปฏิภาณ (เจ้าคุณพิพิธ)
๑๒  กพ.๒๕๕๒