หมาหัวเน่า

คนมักพูดถึงคนไม่มี ไม่มีใครคบ ว่า "หมาหัวเน่า" โดยไม่รู้ว่าหมาหัวเน่านั้นเป็นอย่างไร

และมีจุดจบอย่างไร เพื่อความเข้าใจในเรื่องนี้และเป็นความคิดเชิงวิเคราะห์พฤติกรรม

ของตนและของคนอื่น จะนำเรื่องราวเรื่องหมาหัวเน่ามาเล่าให้ทราบกัน เมื่อประมาณ พ.ศ.2526

อาตมาก็มีความจำเป็นที่ต้องเทศน์และบรรยายธรรม การอ่านการฟังจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

เรียกว่าเก็บกระสุนดินดำสำรองไว้เยอะ วันหนึ่งก็ไปซื้อม้วนเทปคาสเซ็ทที่วัดมหาธาตุ

กรุงเทพมหานคร มาเปิดฟัง จำได้ว่าเป็นการบรรยายธรรมของ นาวาเอกอ่อน บุญพันธ์

ท่านเป็นอนุศาสนาจารย์กองทัพเรือ เป็นนักพูด นักปาฐกถา นักโต้วาที ในเทปม้วนนี้

ท่านบรรยายว่าคนบางคนอยู่กับใครไม่ได้ เห็นคนอื่นเขาไม่ดีไปหมด ตัวดีอยู่คนเดียว

ทำงานที่ไหนก็มีเรื่องย้ายบ่อย เพราะเห็นคนอื่นเลวไปหมด สุดท้ายก็อยู่กับใครไม่ได้

เพราะมองว่าคนอื่นเลว ท่านก็เลยเล่าให้ฟังว่า ครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า

กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ ทรงครองวัดราชบพิธ ก็คือเป็นเจ้าอาวาส วันหนึ่งมีพระหนุ่ม ๆ 

ไปกราบทูลท่านว่า กราบฝ่าพระบาท วัดของเรานี้คงยังสะอาดไม่พอ เพราะกระหม่อมสังเกต

มาหลายวันว่าที่ลานพระอุโบสถชั้นบนนั้น มีสุนัขตัวหนึ่ง มันนอนไม่มีความสุข นอนสักพักหนึ่งมัน

ก็ลุกขึ้นแล้วก็ใช้เท้าคุ้ย ๆ ตรงที่มันนอน แล้วก็นอนลงไปที่เดิม สักพักหนึ่งมันก็ลุกขึ้นแล้วก็วิ่งร้อง

ครวญครางไปหาที่นอนใหม่ มันย้ายอย่างนี้หลายวัน แต่เดี๋ยวนี้มันหายไปจากวัดแล้ว

สมเด็จ ฯ ตรัสกับพระใหม่รูปนี้ว่า อันที่จริงโบสถ์วัดเราก็สะอาดดีแล้ว เวลาสุนัขตัวนี้มันจะนอน

ตรงไหนมันก็ใช้เท้าหน้าสองข้างคุ้ยแล้วมันก็นอน แต่สักพักมันก็ลุกมาคุ้ยใหม่แล้วก็นอน มันนอน

ไม่มีความสุข มันก็ลุกขึ้นแล้วมองที่ที่มันนอนอย่างเกลียดชัง แล้วมันก็หาที่นอนใหม่ แล้วมันก็ทำ

อย่างนั้นอีก เป็นอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน จนเป็นหลายวันเท่าที่เฑธอไปพบนั่นแหละ สุนัขตัวนี้ไม่มีใคร

รู้ว่ามาจากไหน แต่นอนมาใหม่ ๆ นั่นมันมีเลือดออกจากแผลที่หัว ไม่รู้ว่าใครเขาฟันหัวมาหรือมันกัด

กับตัวไหนมาจนเป็นแผล ต่อมาแผลมันก็เน่า แมลงวันตอมกินน้ำเลือดน้ำเหลืองแล้วก็หยอดไ่ข่ไว้เรียกว่า"

ไข่ขัง"แมลงวันจำนวนมากผลัดกันตอมก็หยอดไข่ขัง ๆ ก็กลายเป็นตัวหนอน ๆ ก็ไชหัวที่มีน้ำเลือดน้ำเหลือง 

สุนัขมันก็นนอนไม่เป็นสุข มันนึกว่าสถานที่ไม่สะอาด มันมองอย่างเกลียดชังที่ ๆ มันนอน โดยมัน

ไม่นึกว่าหัวมันเน่า แแลงวันตอม หนอนไชหัว จึงทำให้มันนอนไปเป็นสุข ย้ายไปก็ร้องครางไปวิ่งหัวเอียง

ไปหาที่ใหม่ อันที่จริงแก้ที่หัวของมันให้แผลหายเน่า มันนอนที่ไหน ๆ ก็มีความสุข สมเด็จ ฯ

ทรงประทานหข้อคิดแก่พระใหม่รูปนั้นต่อไปว่า อันที่จริงธรรมดาของสัตว์ที่อยู่ด้วยกันถ้าตัวใดเป็นแผล

พวกมันก็จะช่วยกันเลียเอาเลือดหนองออก ไม่ช้าแผลก็หาย แต่สุนัขตัวนี้ มีแผลที่หัวติดมาก็อาจจะ

เป็นเพราะความเกเรของมันที่กระทำต่อคนหรือสุนัขด้วยกัน มันมาอยู่วัดเรามันก็คิดว่าดี แต่มันไม่มี

สัมพันธภาพกับสุนัขตัวอื่น ก็เลยไม่มีสุนัขเลียชำระแผลให้มัน ส่วนที่มันหายไปมันก็คงคิดว่าไปหาที่ ๆ

ดีกว่าวัดเรา แต่ไปก็ไปทั้งหัวเน่า ๆ ถึงไปอยู่ที่อื่นก็เป็นอย่างนี้อีก สุดท้ายเมื่อหนอนไชมากเข้ามันไม่ได้นอน 

มันก็เป็นโรคประสาท จำนวนหนอนเพิ่มขึ้นเชื้อโรคก็กำเริบ สุดท้ายมันก็บ้าเพราะโรคประสาทตาย สมเด็จ ฯ

สรุปสอนพระใหม่ว่าคนเรานั้นอยู่ที่ไหนต้องมีสัมพันธไมตรีด้วยสังคหวัตถุธรรม มีสาราณียธรรม

จึงจะมีมิตรมากทั้งเกื้อกูลและช่วยเหลือในยามขัดสน และต้องคิดต่อผู้อื่นในด้านที่ดี ไม่ใช่ดีกว่าเขา

แล้วมองคนอื่นเลวไปหมด สุดท้ายก็อยู่กับใครไม่ได้เพราะความคิดไม่ดีก็คือหัวเน่า ๆ ของสุนัขตัวนี้

(เรื่องที่มีคุณค่าแบบนี้ถ้าหายไปเสียแล้ว วันหน้าจะไม่มีใครรู้จักหมาหัวเน่า จึงนำมาเล่าให้ฟังเพื่อช่วย

กันเผยแพร่ต่อ ๆ กันไป)สุนัขตัวไหนช่วยเหลือด้วยการเลียชำระแผลให้มัน สุดท้ายที่มันหาย

ไปม้นก็คงรังเกียจวัดเราแล้วไปหาที่อยู่ใหม่